
ขนมไทยทรงคุณค่า แต่เอามาทำพระเครื่องไม่ได้นะ
กระแสข่างดังในเดือนที่ผ่านมาของวงการพุทธศานาก็คงหนีไม่พ้นประเด็นดราม่าขนมอาลัวพระเครื่องจากร้านมาดามชุบที่หน้าตาดูดี แต่ดีไซน์กลับกระแทกใจชาวพุทธอย่างจัง จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตแตกออกเป็น 2 เสียง วัดใจชาวพุทธสุด ๆ
ขนมอาลัวพระเครื่อง: เสน่ห์ไทย ๆ โปรโมทศาสนาเนียน ๆ
เสียงของชาวเน็ตไทยกลุ่มแรกแสดงความชื่นชม เพราะเหตุผลหลัก ๆ คือศาสนาถูกวางไว้สูงจนคนเข้าถึงยากเกินไป การหยิบยกมาทำขนมที่มีความสวยงาม กลิ่นหอม และรสชาติอร่อย ไม่ทำให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด เหมือนกับที่อาหารฮาลาลไทยได้รับการยอมรับดังไกลถึงต่างแดน เป็นการโปรโมทอาหารอิสลามให้กับนานาชาติ พุทธศาสนาเองก็ควรมีการผลักดันในส่วนนี้บ้าง
ขนมอาลัวพระเครื่อง: เอาศาสนามามัวหมอง พระพุทธไม่ใช่ของกินเล่น

กลุ่มของคนรักศาสนาอีกกลุ่มกลับมองว่าทำให้ศาสนาพุทธมีมลทินมัวหมอง หลังจากช่วงที่ผ่านมามีข่าวคาวของพระสงฆ์เกิดขึ้น คนจึงเสื่อมศรัทธาต่อศาสนามากขึ้น แล้วการทำขนมอาลัวเป็นรูปพระเครื่องแบบนี้เจตนาไม่แน่ชัด อาจทำให้พระพุทธศานาเสื่อมเสีย รวมไปถึงการที่พระชื่อดังหลายรูปออกมาติงว่าไม่ดี เช่น พระพยอมออกมาบอกว่าไม่ดี เพราะเล่นกับของที่คนนับถือ ยิ่งทำให้กระแสอาลัวพระเครื่องเดือดมากยิ่งขึ้น จนมาดามชุบตัดสินใจงดทำอาลัวพระเครื่อง
พุทธศาสน์ไม่รุ่ง หันมาจับไสยศาสตร์ก็ได้

หลังจากมาดามชุบตัดสินใจไม่ทำอาลัวพระเครื่องแล้ว เพราะกระแสดราม่าที่ไม่มีทีท่าจะหยุด แต่หันมาปิ๊งไอเดียใหม่ ๆ จากไอเดียพระมหาไพวัลย์กับการทำอาลัวคุณไสย แปลกแต่จริงคราวนี้กลับทำได้โดยไม่มีกระแสดราม่าเลย โดยอาลัวคุณไสยจะประกอบไปด้วยของทำคุณไสยที่รู้จักกันดี เช่น ควายธนู ตะกรุด หม้อลงอาคม และอื่น ๆ แต่ในโพสต์เฟซบุ๊กของร้านมาดามชุบระบุชัดเจนเลยว่า “ห้ามสั่ง!” เพราะเป็นงานปั้นสด ไม่มีพิมพ์ ทำตามคำแนะนำของพระมหาไพรวัลย์เท่านั้น ใครสนใจขนมอาลัวคุณไยก็ทำได้แค่ชื่นชมในใจต่อไป
ถอดบทเรียนอาลัวพระเครื่องสู่อาลัวคุณไสย
ร้านมาดามชุบเป็นร้านขายขนมไทย สินค้าขึ้นชื่อคอขนมลูกชุบที่เป็นงานปั้นถั่วเขียวที่ได้รับความินยมมายาวนาน ขนมอาลัวเองก็เป็นหนึ่งในไลน์สินค้าของร้าน เมื่อต้องการเพิ่มมูลค่าให้ขนมจึงมีการปั้นขนมเป็นรูปทรงใหม่ ๆ เช่น จัดขนมลูกชุบเป็นเซตน้ำพริกกะปิ มีปลาทูปั้นถั่วเขียวตัวโต ๆ อยู่ในถาด ขนมลูกชุบยังดีไซน์มาขนาดนี้ การทำขนมอาลัวพระเครื่องจึงไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งคิด แต่เป็นจินตนาการที่วาดหวังว่าจะเพิ่มมูลค่าให้ขนม การที่มีคนตีจุดประสงค์ผิดไปถึงการลบหลู่จึงไม่ใช่เรื่องจริง เรื่องนี้จึงสะท้อนค่านิยมทางความเชื่อและศาสนาได้ดังนี้

- พุทธศาสนามีความอ่อนไหวเป็นอย่างมากในสังคมไทย การหยิบยกมาทำสินค้าแทบจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากสินค้าจากทางวัดหรือพุทธศานสถานเอง
- ไสยศาสตร์เคยอยู่คู่วัดมานาน แต่มีความเชื่อว่าคือของต่ำ แต่กลับยอมให้ขนมอาลัวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นขนมชาววังหยิบยกมาปั้นได้โดยไร้ดราม่า
- พระเครื่องเป็นสิ่งที่เชื่อว่าเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าจึงอาจไม่เหมาะสม แต่หากใช้สัญลักษณ์อื่นที่ไม่ใช่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เช่น ใบโพธิ์ หรือกวางหมอบจะมีประเด็นดราม่าหรือไม่
ประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ก็น่าขบคิด เพราะพุทธแท้ พุทธเทียมค่อนข้างสับสนในปัจจุบัน คนใจร้อนแข่งกับอากาศจนพัดลมไอเย็นเอาไม่อยู่ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปการนำพุทธสานามาให้เข้าถึงง่ายอาจจะไม่เกิดขึ้น
รูปภาพจาก มาดามชุบ