อันตรายที่ต้องระวังจากควันธูปไหว้พระ

ปัญหาสุขภาพเรื้อรังจากการจุดธูป

การไหว้พระเป็นการแสดงความเคารพต่อพระพุทธรูปอันเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ครอบครัวพุทธศาสนิกชนนิยมตั้งหิ้งพระไว้ในบ้าน และมีกระถางธูปเล็ก ๆ อยู่ตรงกลางของหิ้งพระสำหรับจุดธูปไหว้พระ แต่ในช่วงที่ฝุ่น PM2.5 ปกคลุมในหลายพื้นที่ในประเทศไทย ควันธูปก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สร้างฝุ่น PM 2.5 นอกจากปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมแล้ว ควันธูปยังสร้างปัญหาต่อสุขภาพอีกด้วย

ปัญหาสุขภาพที่ตามมากับควันธูป

ควันธูปตามศาสนสถาน

ควันธูปเกิดจากการเผาไหม้ของสารที่ประกอบขึ้นมาจากธูป โดยธูปนี้มีส่วนประกอบของสารที่เป็นมะเร็งมากถึง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน เมื่อเกิดการเผาไหม้แล้วควันที่ลอยขึ้นไปในอากาศจะสร้างฝุ่นละอองขนาด 10 ไมครอนที่เมื่อสูดดมเข้าไปจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพ สามารถสรุปปัญหาสุขภาพจากควันธูปได้ดังนี้

  • เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด

ฝุ่นละอองและควันจากควันธูปจะไปสะสมที่ปอดเมื่อสูดดมมากขึ้น และมีเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดหากสูดดมมากกว่า 10 ปีขึ้นไป

  • กระตุ้นโรคประจำตัวให้กำเริบ

ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด มะเร็งปอด และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจจะรู้สึกไม่สบายเมื่อได้กลิ่นควันธูป

  • เป็นโรคภูมิแพ้

การสูดดมควันเข้าไปนาน ๆ จะก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ และพัฒนาไปเป็นโรคหอบหืดได้ในที่สุด

โรคที่เกี่ยวเนื่องจากการสูดดมควันธูปล้วนมีความรุนแรงหากสะสมเป็นเวลานาน และควันธูปนี้อันตรายกว่าฝุ่น PM 2.5 เสียอีก

การลดปัญหาจากควันธูป

ควันธูปกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ต่อสุขภาพที่ได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้างในช่วงที่ผ่านมา เพราะควันจากการเผาไหม้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจ ร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งปอด ข้อควรปฏิบัติเมื่อต้องจุดธูปจึงสามารถทำได้ ดังนี้

  • งดการจุดธูปและเทียนในสถานที่ที่คนแออัด

การจุดธูปควรจุดในที่โล่งแจ้ง เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก และหลีกเลี่ยงบริเวณที่ผู้คนพลุกพล่าน เพราะจะทำให้มีคนสูดดมควันธูปมากขึ้น

  • จุดธูปเหนือทิศทางลมเพื่อลดการสูดดม

หากมีความจำเป็นต้องจุดธูปควรเลือกบริเวณเหนือทิศทางลม หรือบริเวณที่ควันธูปจะไม่ลอยไปบริเวณที่คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ลดจำนวนการสูดดมควันธูปได้

  • จัดสถานที่จุดธูปไว้ภายนอกอาคาร

นอกอาคารที่ไม่ค่อยมีคนเหมาะแก่การจัดเป็นสถานที่สำหรับจุดธูปไหว้พระ เพราะนอกจากจะห่างไกลผู้คนแล้ว ยังอยู่นพื้นที่โล่งแจ้งที่อากาศถ่ายเทสะดวกอีกด้วย

  • ใส่หน้ากากอนามัยขณะจุดธูป

หน้ากากอนามัยกลายมาเป็นไอเทมยอดฮิตในยุคปัจจุบัน หลังจากฝ่าฟันวิกฤตหน้ากากอนามัยแพงมาได้ ตอนนี้ก็เริ่มหาซื้อง่ายขึ้น ถ้ามีความจำเป็นต้องไปวัดหรือสถานที่ที่ควันธูปหนาแน่นควรใส่หน้ากากอนามัยเสมอ

ทางเลือกการใช้ธูปที่ลดผลกระทบ

ธูปเป็นตัวการการก่อควัน

การจุดธูปไหว้พระฝังลึกเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว การจะยกเลิกการจุดธูปเลยอาจจะทำได้ยาก แต่หากเป็นการไหว้พระที่บ้านอาจจะพอเลี่ยงได้ หรืออาจจะปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้เพื่อลดการเกิดควันธูป

  • ใช้ธูปไร้ควัน

ธูปไร้ควันเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาให้สามารถจุดธูปได้โดยไม่ก่อให้เกิดควันรบกวน แต่ธูปไร้ควันบางชนิดก็อันตรายเช่นกันจึงควรเลือกธูปไร้ควันที่ได้รับการรับรองว่าปลอดสารก่อมะเร็ง

  • ใช้ธูปไฟฟ้า

ธูปไฟฟ้าเป็นธูปที่ทำงานโดยการเสียบปลั๊ก ธูปไฟฟ้านี้มีความปลอดภัยสูง เพราะไม่มีทั้งการเผาไหม้และการเกิดควัน ดีต่อทั้งผู้เป็นภูมิแพ้และสมาชิกคนอื่น ๆ ในบ้าน

  • ใช้เครื่องดูดควันธูป

เครื่องดูดควันที่ติดตามห้องครัวสามารถดูดควันธูปได้เช่นกัน แต่ขณะเดียวกันก็มีเครื่องดูดควันธูปเฉพาะขนาดเล็กจำหน่ายในร้านค้าทั่วไปและร้านค้าออนไลน์ เหมาะแก่การซื้อติดบ้านไว้ดูดควันธูป

การเผาไหม้ของธูปให้โทษต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เมื่อสูดดมไปนานอาจเกิดมะเร็งปอดได้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงหากไม่มีประกันมะเร็งช่วยจ่าย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการจุดและสูดดมควันธูปเพื่อสุขภาพที่ดีของคนเอง เลือกไหว้พระด้วยศรัทธาย่อมส่งผลบุญได้ไม่ต่างกัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

พิธีกรรม

เสริมความเท่าเทียมกับแนวคิดคนทุกเพศต้องบวชได้

จัดงานบวชแบบไหนให้ถูกใจชาวพุทธ องค์ประกอบของพระพุทธศาสนามีองค์ 3 ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งในองค์ 3 นี้ พระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว เหลือเพียงหลักธรรมคำสอน และพระสงฆ์สาวกที่มาจากผู้มีจิตศรัทธาต้องการบวชภายใต้ร่มกาสาวพักตร์ แต่การบวชพระมีเพียงเพศชายเท่านั้นที่ได้รับการบวช จนมีคนผุดไอเดียให้คนทุกเพศสามารถบวชได้ วัฒนธรรมการบวชพระในอดีต การบวชพระในอดีตมีความสำคัญมาก โดยสังคมจะให้ความสำคัญกับเจตนาของผู้ปรารถนาตนเป็นพระสงฆ์เพื่อธำรงค์ไว้ซึ่งพุทธศาสนา อาจจะกล่าวได้ว่าการบวชในอดีตเป็นงานบุญเต็มรูปแบบ แบ่งพิธีปฏิบัติในการบวชออกได้เป็น 2 แบบ คือ แบบอุกาสะ – เป็นการบวชของพระสงฆ์ในสังกัดมหานิกาย แบบเอสาหัง – เป็นการบวชของพระสงฆ์ในสังกัดธรรมยุต ความแตกต่างหลัก ๆ ของการบวชทั้ง 2 แบบอยู่ที่บทสวดที่ใช้ แบบธรรมยุตจะเป็นขนบโบราณ มีภาษามคธซึ่งเป็นภาษาอินเดียโบราณเป็นองค์ประกอบ ในปัจจุบันไม่ค่อยแพร่หลาย มักพบการบวชแบบอุกาสะมากกว่า ขั้นตอนการบวชพระ การบวชพระมีขั้นตอนการบวช ดังนี้ การโกนผมนาค – ญาติจะขลิบผมนาคใส่ในใบบัว แล้วพระสงฆ์จะเป็ผู้โกนหัวในขั้นตอนสุดท้าย การแต่งตัวนาค – ชุดของนาคจะเป็นชุดสีขาว คลุมด้วยผ้าลูกไม้สีขาวขลิบทองอีกชั้นหนึ่ง การเวียนประทักษิณ – การเดินเวียนขวารอบโบสถ์ เพื่อแสดงความเคารพต่อพระพุทธองค์ และเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง การบรพพชา […]

Read More