เสริมความเท่าเทียมกับแนวคิดคนทุกเพศต้องบวชได้

จัดงานบวชแบบไหนให้ถูกใจชาวพุทธ

องค์ประกอบของพระพุทธศาสนามีองค์ 3 ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งในองค์ 3 นี้ พระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว เหลือเพียงหลักธรรมคำสอน และพระสงฆ์สาวกที่มาจากผู้มีจิตศรัทธาต้องการบวชภายใต้ร่มกาสาวพักตร์ แต่การบวชพระมีเพียงเพศชายเท่านั้นที่ได้รับการบวช จนมีคนผุดไอเดียให้คนทุกเพศสามารถบวชได้

ผ้าเหลือง สัญลักษณ์ของพระสงฆ์

วัฒนธรรมการบวชพระในอดีต

การบวชพระในอดีตมีความสำคัญมาก โดยสังคมจะให้ความสำคัญกับเจตนาของผู้ปรารถนาตนเป็นพระสงฆ์เพื่อธำรงค์ไว้ซึ่งพุทธศาสนา อาจจะกล่าวได้ว่าการบวชในอดีตเป็นงานบุญเต็มรูปแบบ แบ่งพิธีปฏิบัติในการบวชออกได้เป็น 2 แบบ คือ

  • แบบอุกาสะ – เป็นการบวชของพระสงฆ์ในสังกัดมหานิกาย
  • แบบเอสาหัง – เป็นการบวชของพระสงฆ์ในสังกัดธรรมยุต

ความแตกต่างหลัก ๆ ของการบวชทั้ง 2 แบบอยู่ที่บทสวดที่ใช้ แบบธรรมยุตจะเป็นขนบโบราณ มีภาษามคธซึ่งเป็นภาษาอินเดียโบราณเป็นองค์ประกอบ ในปัจจุบันไม่ค่อยแพร่หลาย มักพบการบวชแบบอุกาสะมากกว่า

ขั้นตอนการบวชพระ

การบวชพระมีขั้นตอนการบวช ดังนี้

  • การโกนผมนาค – ญาติจะขลิบผมนาคใส่ในใบบัว แล้วพระสงฆ์จะเป็ผู้โกนหัวในขั้นตอนสุดท้าย
  • การแต่งตัวนาค – ชุดของนาคจะเป็นชุดสีขาว คลุมด้วยผ้าลูกไม้สีขาวขลิบทองอีกชั้นหนึ่ง
  • การเวียนประทักษิณ – การเดินเวียนขวารอบโบสถ์ เพื่อแสดงความเคารพต่อพระพุทธองค์ และเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง
  • การบรพพชา – ก่อนการบวชพระจะต้องบวชเณรก่อน เรียกว่าการบรรพชา
  • การอุปสมบท – เมื่อบรรพชาแล้วเสร็จจึงจะเข้สู่ขั้นตอนท่องบทสวดเพื่อขออุปสมบท
  • การซักซ้อมอันตริยกธรรม – เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะกลายเป็นพระภิกษุ เป็นขั้นตอนการถามเพื่อยืนยันว่าผู้บวชบริสุทธิ์ใจที่จะบวชและไม่มีคุณลักษณะอื่นใดที่ไม่สามารถบวชได้ ต้องตอบตามความเป็นจริง

การบวชในอดีตเน้นความเรียบง่ายและให้ความสำคัญกับพิธี ไม่ต้องมีรถแห่รอบโบสถ์ในช่วงเวียนประทักษิณที่อาจมีการตีกัน หรือมีการเกิดคลัสเตอร์งานบวชในช่วงโควิดเลย

ความเชื่อเกี่ยวกับการบวชพระ

การบวชเป็นการปวารณาตนเองเข้าสู่ร่มเงาพุทธศาสนาจึงมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับการบวช และเป็นกุศโลบายให้ลูกชายหันมาบวชด้วย ความเชื่อที่สำคัญ ๆ เช่น

  • ผมนาคขณะปลงผมนาคมีความสำคัญ มักจะรองด้วยใบบัวแล้วนำไปลอยน้ำหรือวางไว้โคนต้นไม้ เชื่อว่าจะทำให้ร่มเย็น
  • การบวชเป็นการอุทิศบุญให้พ่อแม่ พ่อแม่จะสามารถเกาะชายผ้าเหลืองลูกขึ้นสวรรค์ได้
  • คนที่กำลังจะบวช กลิ่นตัวจะหอม วิญญาณและเจ้ากรรมนายเวรจึงมักจะมาขอส่วนบุญ ให้ระวังการออกไปข้างนอกยามวิกาล
  • ในอดีตหากนักโทษหนีเข้ามาขอบวชในวัด แล้วได้รับอนุญาต โทษทัณฑ์ที่ติดตัวจะถือว่าขอบิณฑบาตได้

ความเชื่อต่าง ๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าศาสนามีบทบาทมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการตั้งคำถามมากขึ้น ความเชื่อบางข้อจึงมีคำถามโต้แย้งขึ้นมาว่า “จริงหรือ?”

แนวคิดแคมเปญ “ทุกคนต้องบวชได้”

แคมเปญทุกคนต้องบวชได้ก็มาจากคำถามความเชื่อว่าจริงหรือที่การบวชเป็นสิทธิ์เฉพาะผู้ชาย หากการบวชทำให้พ่อแม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์จริง ทำไมจะเกาะชายผ้าเหลืองลูกสาวไม่ได้ การรณรงค์ทำโดยการถ่ายภาพคนโกนหัวนุ่งห่มคล้ายพระสงฆ์ แต่สังฆาฏิเป็นสีรุ้งสนับสนุนชาว LGBT หลังจากภาพเผยแพร่ออกไปก็มีเสียงวิจารณ์ทั่วโซเชียลทั้งคนที่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และคนที่ไม่เห็นด้วย แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้คนหันมาขบคิดสิ่งที่ผู้รณรงค์เขียน “เพราะการบวชไม่ได้ขึ้นอยู่กับอวัยวะเพศ”

งานบวชเคยเป็นงานที่เปี่ยมด้วยศรัทธาจนกาลเวลาเปลี่ยนกลายมาเป็นงานรื่นเริงที่เน้นความบันเทิงเข้ามาด้วย มีการดื่มเหล้าซึ่งผิดศีลข้อ 5 และหลายที่มีการเล่นการพนันในงานบวช โดยไม่ต้องสมัครบาคาร่า ออนไลน์เลย เห็นอย่างนี้แล้วก็ได้แต่มานั่งคิดว่าแก่นแม้ของการบวชในปัจจุบันอยู่ที่อะไร?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

พิธีกรรม

อันตรายที่ต้องระวังจากควันธูปไหว้พระ

ปัญหาสุขภาพเรื้อรังจากการจุดธูป การไหว้พระเป็นการแสดงความเคารพต่อพระพุทธรูปอันเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ครอบครัวพุทธศาสนิกชนนิยมตั้งหิ้งพระไว้ในบ้าน และมีกระถางธูปเล็ก ๆ อยู่ตรงกลางของหิ้งพระสำหรับจุดธูปไหว้พระ แต่ในช่วงที่ฝุ่น PM2.5 ปกคลุมในหลายพื้นที่ในประเทศไทย ควันธูปก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สร้างฝุ่น PM 2.5 นอกจากปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมแล้ว ควันธูปยังสร้างปัญหาต่อสุขภาพอีกด้วย ปัญหาสุขภาพที่ตามมากับควันธูป ควันธูปเกิดจากการเผาไหม้ของสารที่ประกอบขึ้นมาจากธูป โดยธูปนี้มีส่วนประกอบของสารที่เป็นมะเร็งมากถึง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน เมื่อเกิดการเผาไหม้แล้วควันที่ลอยขึ้นไปในอากาศจะสร้างฝุ่นละอองขนาด 10 ไมครอนที่เมื่อสูดดมเข้าไปจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพ สามารถสรุปปัญหาสุขภาพจากควันธูปได้ดังนี้ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด ฝุ่นละอองและควันจากควันธูปจะไปสะสมที่ปอดเมื่อสูดดมมากขึ้น และมีเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดหากสูดดมมากกว่า 10 ปีขึ้นไป กระตุ้นโรคประจำตัวให้กำเริบ ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด มะเร็งปอด และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจจะรู้สึกไม่สบายเมื่อได้กลิ่นควันธูป เป็นโรคภูมิแพ้ การสูดดมควันเข้าไปนาน ๆ จะก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ และพัฒนาไปเป็นโรคหอบหืดได้ในที่สุด โรคที่เกี่ยวเนื่องจากการสูดดมควันธูปล้วนมีความรุนแรงหากสะสมเป็นเวลานาน และควันธูปนี้อันตรายกว่าฝุ่น PM 2.5 เสียอีก การลดปัญหาจากควันธูป ควันธูปกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ต่อสุขภาพที่ได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้างในช่วงที่ผ่านมา เพราะควันจากการเผาไหม้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจ ร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งปอด ข้อควรปฏิบัติเมื่อต้องจุดธูปจึงสามารถทำได้ ดังนี้ งดการจุดธูปและเทียนในสถานที่ที่คนแออัด การจุดธูปควรจุดในที่โล่งแจ้ง เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก […]

Read More